นักวิทยาศาสตร์ออกมาเตือนไวรัสในค้างคาวอาจจะมีวิวัฒนาการเป็นเชื้อไวรัสชนิดใหม่

นักวิทยาศาสตร์ออกมาเตือนไวรัสในค้างคาวอาจจะมีวิวัฒนาการเป็นเชื้อไวรัสชนิดใหม่

             ในขณะนี้   สือ เจิ้งลี่ เธอคือนักวิทยาศาสตร์คนดังของประเทศจีนที่ประจำอยู่ในสถาบันองค์ท่านซึ่งเป็นผู้ที่ค้นพบเชื้อไวรัสโคโรน่าคนแรกซึ่งขณะนี้เธอกำลังศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องของเชื้อไวรัสโคโรนาอยู่ในขณะนี้โดยเธอออกมาพูดถึงเชื้อไวรัสขนาดนี้ว่าจากการที่เธอศึกษาเกี่ยวกับเชื้อไวรัสชนิดนี้พบว่ามีการวิวัฒนาการของเชื้อไวรัสโคโรน่าร่วมกับเชื้อของค้างคาวซึ่งถ้าเกิดว่าชั้น 2 อย่างนี้มารวมกันมาจะมีการพัฒนาร่วมกันเกิดขึ้นได้เป็นเชื้อไวรัสชนิดใหม่ขึ้นมาได้โดยทาง ดร. สือ เจิ้งลี่ 

ได้ออกมาพูดถึงเรื่องของเชื้อไวรัสชนิดใหม่นี้งานวันที่ 26 เดือนพฤษภาคมพ.ศ 2563 โดยมีการออกมาเผยแพร่เกี่ยวกับข้อมูลที่เธอได้มีการศึกษาค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับเรื่องของเชื้อไวรัสโคโรนาว่าเธอมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเชื้อไวรัสชนิดนี้มาตั้งแต่ตอนที่ประเทศจีนประสบปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ว่าที่จริงแล้วเชื้อชนิดนี้เกิดมาจากเชื้อไวรัส

โดยมีตัวอะไรเป็นพาหนะซึ่งหลังจากที่มีการวิจัยออกมาจึงทำให้ทราบได้ว่าเชื้อไวรัสชนิดนี้พัฒนามาจากสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมอย่างค้างคาวถ้าหลังจากนั้นเธอก็นำการวิจัยที่ค้นพบเชื้อไวรัสโคโรน่านี้มาทำการวิจัยเพิ่มเติมซึ่งทำให้เธอทราบว่าเชื้อไวรัสชนิดนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ตรงนี้เท่านั้นเมื่อเชื้อได้รับการต่อสู้ด้วยกันนำยาฆ่าเชื้อมาผลปรากฏว่าเชื้อไวรัสชนิดนี้

มีการพัฒนาการมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อเป็นการพัฒนาการเสือให้มีความแข็งแรงมากขึ้นทำให้ชีวิตนี้อาจจะมีการพัฒนากลายเป็นเชื้อไวรัสชนิดใหม่ขึ้นมาอีกทีนึงก็ได้ซึ่งหลังจากที่มีการดูข้อมูลและศึกษาเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าย้อนหลังโดยเธอหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของสายพันธุ์ของไวรัสเนื่องจากพบว่าเดิมทีนั้นไวรัสชนิดนี้มีแค่สายพันเดียวแต่หลังจากนั้นเมื่อมีการรักษาด้วยการนำยามารักษาต่างๆพบว่าเชื้อมีการกลายพันธุ์แบ่งออกเป็นหลายสายพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ A สายพันธุ์ B

และแต่ละสายพันธุ์เชื้อก็มีความแข็งแกร่งมากขึ้นทำให้การผลิตยาต้านไวรัสชนิดนี้ค่อนข้างผลิตได้ลำบากและจากการที่เธอได้มีการศึกษาค้นคว้ามาพบว่าเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งเมื่อมีแรงกดดันที่มีการผลิตน้ำยาต้านเชื้อออกมาพวกมันก็มีการพัฒนาตนเองให้หลีกหนียาฆ่าเชื้อเหล่านั้นได้ซึ่งเธอมองว่าหากยังคงเป็นอยู่อย่างนี้แน่นอนว่าเชื้อไวรัสจะต้องมีการกลายพันธุ์เป็นเชื้อไวรัสชนิดใหม่แน่นอนซึ่งมันจะมีผลต่อมนุษย์ทุกคนทั่วโลกที่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมและแน่นอนว่าถ้ามันสามารถกลายพันธุ์ได้เรื่อยๆมันก็จะหนีวัคซีนที่อาจจะมีการพัฒนาเพื่อเอามากำจัดมันก็ได้ 

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  sagameผ่านมือถือ