Tag Archive : huaydee

ดาวเคราะห์ดวงนี้มันพิเศษอย่างไรและดาวก๊าสยักษ์มันแปลกอย่างไร?

ดาวเคราะห์ดวงนี้ อ้างอิงจากความรู้ทางดาราศาสตร์ดาวเคราะห์ที่มีขนาดเท่ากับดาวเนปจูนไม่อาจคงรูปและรักษาชั้นบรรยากาศของตนเอาไว้ได้ในขณะที่กำลังได้โคจรไปรอบๆวิถีของดาวแม่ในระยะใกล้แต่อย่างไรก็ลืมเรื่องนี้ไปก่อนเพราะเราไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่ว่านี้อยู่เหมือนกัน

ซึ่งในปีที่ผ่านมานักดาราศาสตร์ได้ค้นพบดาวเคราะห์ที่สามารถทำแบบนั้นได้แล้วและนี่ไม่ใช่ดาวเคราะห์ที่จะแหกไปทุกองความรู้ของเรานักวิทยาศาสตร์คงจะคิดภาพรวมของจักรวาลเสียใหม่ใช่หรือไม่เรามาดูกันเลยดีกว่าเรื่องดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะจักรวาลถือว่าเป็นเรื่องที่ร้อนแรงในวงการดาราศาสตร์ในขณะนี้และทุกๆครั้งที่ได้มีการค้นพบสิ่งนี้ใหม่

โดยมันจะทำให้เรายิ่งมั่นใจมุมมองของเราที่มีต่อจักรวาลที่มีอยู่อาศัยเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆแต่บางการค้นพบที่ว่ามันก็ได้ทำให้เราถึงกับงงดาวเคราะห์ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า NGTS-4B ดาวดวงนี้ได้ถูกค้นพบโดยกล้องจุลทรรศน์ Next-Generation Transit Survey หรือเรียกกันว่า NGTS ที่ได้ตั้งอยู่ที่ทะเลอาตากามาประเทศชิลี

นอกจากนี้ที่แห่งนี้ได้เป็นฐานการสำรวจดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะโดยระบบหุ่นยนต์ที่มุ่งค้นหาดาวเคราะห์ที่ใหญ่กว่าโลกและกึ่งดาวเนปจูนการค้นพบดาวนี้ต้องใช้กระบวนการวัดความอุ่นของดาวฤกษ์ที่ได้เกิดขึ้นเมื่อดาวเคราะห์ได้โคจรผ่านเส้นทางระหว่างดาวฤกษ์และจุดเฝ้าสังเกตุการระยะเวลาและความเข้มข้นและความทึบแสงจะช่วยให้เราทราบขนาดความหนาแน่นและระยะทางที่ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะอยู่ห่างจากดาวแม่ของมัน

ดังนั้น NGTS-4Bอย่างในที่สุดตอนนี้เป็นดาวเคราะห์ขนาดกึ่งเนปจูนเพียงหนึ่งเดียวที่โคจรอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า เนปทูเนียน เดสเสิร์ต และที่เรียกว่า เดสเสิร์ตก็ต้องมีเหตุผลคือรังสีที่แผออกจากดาวฤกษ์ในทะเลทรายแห่งนี้มันได้มีความอันตรายสูงมาก

เนื่องจากนี้โดยทั่วไปมันสามารถระเหยชั้นบรรยากาศจากดาวเคราะห์ใดๆในระยะใกล้และทำให้เหลือเพียงขนาดเล็กหรือเป็นเศษซากแบบดาวเคราะห์ที่ตายแล้วนักวิทยาศาสตร์ทำได้เพียงคาดเดาว่าเพราะเหตุใด NGTS-4B ถึงไม่เป็นแบบนั้นดาวดวงนี้ยังได้มีชั้นบรรยากาศและมีขนาดเกือบ80%ของดาวเนปจูนทั้งยังโคจรรอบดาวฤกษ์ด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง

ซึ่งมันสามารถครบรอบดาวฤกษ์ได้ภายใน1.3วันข้อสังเกตหนึ่งบอกว่าดาวเคราะห์นี้อาจจะไม่ได้อยู่ใกล้ดาวฤกษ์ตลอดและมันพึ่งย้ายมาตรงนี้ในตอนที่เรานั้นค้นพบ

ดังนั้นชั้นบรรยากาศมันคงระเหยไปแล้วแต่คำอธิบายอีกอย่างที่อาจจะเป็นไปได้ก็คือ NGTS-4Bดวงนี้เคยมีขนาดใหญ่กว่าที่เราได้ค้นพบเป็นอย่างมากแล้วเราก็พึ่งทันหามันเจอในช่วงเวลาสุดท้ายของความน่าอัศจรรย์นี้พอดี

 

สนับสนุนโดย.  huaydee

มนุษย์จะสูญพันธุ์เพราะดวงอาทิตย์ขยายตัว

สิ่งมีชีวิตทุกอย่างไม่ว่าเป็นมนุษย์ สัตว์ หรืออะไรแล้วแต่ เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว มันก็ต้องมีวันที่ดับสูญหายไป แต่คุณจะเคยคิดหรือไม่ว่า วันหนึ่งมันอาจจะหายไปโดยไม่สามารถกลับมาได้อีก อย่างการสูญพันธุ์ สิ่งมีชีวิตบนโลกเรานั้นมีหลายอย่างที่สูญพันธุ์ไปอย่างไม่มีวันกลับมาอย่างเช่น ไดโนเสาร์ ที่มีทฤษฎีที่ว่ามันไม่สามารถอยู่รอดในสิ่งแวดที่เปลี่ยนไปได้ และเพราะมีอุกกาบาตพุ่งชนโลก

ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตในยุคนั้นเหลือรอด เช่นเดียวกันกับสิ่งชีวิตในปัจจุบันนี้ ที่ในอนาคตนั้นไม่มีความแน่นอน ว่าเราจะสามารถดำรงอยู่สิ่งแวดล้อมที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปได้หรือไม่ นอกจากนี้แล้วสาเหตุของการสูญพันธุ์นั้นไม่ได้มาจากสิ่งแวดล้อมภายในโลกอย่าง แต่อาจจะเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดจากโลกได้เช่นกัน

อย่างในบทความนี้ที่เรากำลังจะมาพูดถึงการสูญพันธุ์ของมนุษย์โลกจาก ดวงอาทิตย์ บางคนมีความคิดว่าดวงอาทิตย์นั้นก็เหมือนไฟ ยิ่งร้อนมันก็เหมือนยิ่งเผาตัวเอง ท้ายที่สุดแล้ววันหนึ่งมันอาจจะเล็กลงและดับไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้วทุกอย่างมันตรงกันข้ามไปหมด ในทางกลับกันยิ่งดวงอาทิตย์มีอายุมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็จะมีขนาดที่ขยายใหญ่มากขึ้นไปเรื่อยๆ

และในเวลาต่อมาเราจะเรียกมันว่า ดาวยักษ์แดง แต่ดาวยักษ์แดงนี้จะมีอุณหภูมิที่น้อยกว่าดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆตามการขยายของมัน เพราะขนาดที่ขยายของมันนั้นจะสามารถกลืนกินพื้นที่ไปจนถึงดูดกลืนดาวพุธและดาวศุกร์ได้เลย จนมันเริ่มเข้ามาใกล้โลกมากขึ้น หากเป็นเช่นนั้นสิ่งที่ตามมาบนโลกก็คือ พื้นดินบนโลกจะถูกเผา น้ำจะถูกระเหยหายไปจนหมด สิ่งมีชีวิตจะถูกเผาไหม้ไปด้วย หรือบางทีโลกของเรา

ก็จะถูกดาวยักษ์กลืนกินไปด้วย แต่ว่ากันว่ามนุษย์อย่างเราในปัจจุบันคงจะไม่มีโอกาสได้เจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ เพราะกว่าที่ดวงอาทิตย์นั้นจะกลายเป็นดาวยักษ์แดงมันต้องใช้ระยะไม่น้อยเลยทีเดียว ประมาณ 2,000-3,000 ล้านปีเลยก็ว่าได้ ซึ่งการสันนิฐานเรื่องนี้มันสามารถเป็นไปได้อย่างมาก เนื่องจากทางนักวิจัยด้านดาราศาสตร์เอง

ก็ได้ทำการสังเกตดวงอาทิตย์มาเป็นเวลานาน และค้นพบว่าดวงอาทิตย์นั้นมีขนาดที่ขยายให้ใหญ่ขึ้นจริงๆ จึงมีความเป็นไปได้ว่าสิ่งที่ได้มีการสันนิฐานว่าในอนาคตนั้นมันจะใหญ่ขึ้นจนกินพื้นที่ทั้งหมดของระบบสุริยะ จนไม่เหลือดาวเคราะห์ดวงไหนเอาไว้เลยรวมกระทั่งโลกของเราด้วย ซึ่งเหตุการณ์การขยายตัวของดวงอาทิตย์ก็ถือว่าเป็นอีกสาเหตุหนึ่งได้เช่นกัน ที่จะทำให้มนุษย์นั้นสูญพันธุ์หายไปจากโลกใบนี้

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  huaydee