ซากฟอซซิลและถ้ำน้ำแข็งยักษ์

ซากฟอซซิลและถ้ำน้ำแข็งยักษ์

สำหับเรื่องราวเหล่านี้ที่มันยังเป็นปริศนาที่ทำให้เหล่นักวิทยาศาสตร์จะต้อสงสัยกัน เนื่องจากสิ่งพวกนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรละต้องทำให้นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์หลายคนจะต้องมึนหัวไปตามๆกันเพราะยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่ามันเกิดข้นมาได้อย่างไรกับสิ่งที่ได้ค้นพบนี้

ถ้ำน้ำแข็งยักษ์

สิ่งเหล่านี้ใครเขาจะไปคิดล่ะว่าการที่น้ำแข็งนั้นได้ละลายอย่างรวดเร็วมันจะนำไปสู่การค้นพบที่สุดแปลกตาและสุดมหัศจรรย์กับเขาได้ด้วยโดยในปี2012เรด้าของนาซ่าก้ได้พบว่าทานน้ำแข็งนั้นได้ยุบตัวลงเร็วอย่างผิดปกติและนักวิจัยก็ได้ลงพื้นที่สำรวจก็จะต้องอ้าปากค้างเพราะในใต้น้ำแข็งสีขาวโพล่ได้มีถ้ำที่มีขนาดใหญ่ซ่อยอยู่จริงๆและสวยงามแปลกตาเอามากๆเนื่องจากเพดานถ้ำเหมือนเดิมสีน้ำเงินที่ได้เกินมาจากชั้นน้ำแข็งกั้นน้ำภายนอกเอาไว้และเมื่อได้เข้าไปข้างด้านในนั้นก็จะพบเห็นว่าภายในถ้ำจะมีอุณหภูมิ25องศาเซลเซียส

ซึ่งมันได้อุ่นกว่าข้างนอกมากมันอาจจะเป็นเพราะว่าในถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำที่อยู่ในแนวภูเขาไฟและได้มีอุณหภูมิสูงนอกจากนี้มันก็อาจจะเป็นไปได้ว่ามันจะมีสิ่งที่มรชีวิตอาศัยอยู่เนื่องจากในตัวอย่างดินได้มีร่องรอยของดีเอนเอคล้ายกับสาหร่ายมอสและสัตว์ที่มีขนาดเล็ก ซึ่งมันก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่นักวิจัยก็เชื่อว่ามันอาจจะมีพืชและสัตว์ชนิดใหม่ๆอาศัยอยู่ก็เป็นได้ถ้าน้ำแข็งละลายจนเรด้านั้นจับไม่ได้ล่ะก็เราก็คงจะไม่ได้เห็นอะไรที่ดีๆแบบนี้

ซากฟอซซิลพืชเขตร้อน

พืชเขตร้อนจำพวกต้นปาล์มนี้หรอ มันจะมีอยู่บนทวีปที่มันเต็มไปด้วยเทือกน้ำแข็งในแอนตาร์กติกาได้อย่างไร ซึ่งมันฟังดูชั่งหน้าเหลือเชื่อใช่ไหมแต่ก็มีการค้นพบหลักฐานที่น่าจะบ่งบอกว่าในอดีตบริเวณนี้ได้ถูกปกคลุมด้วยป่าจริงๆเนื่องขจากการค้นพบร่องรอยฟอซซิลของพืชเขตร้อนที่นี้จากหลักฐานที่ได้มัดตัวขนาดนี้ ซึ่งมันทำให้เชื่อได้ว่าบริเวณนี้มันเคยเป็นป่าดงดิบและได้มีอากาศที่อบอุ่นมากก่อนหากคุณไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วล่ะเพราะจะต้องยอมจำนนต่อหลักฐานแต่สิ่งที่มันน่าสนใจอย่างสุดๆ

ก็คือต้นไม้เหล่านี้ดำรงมีชีวิตอยู่กันได้อย่างไรในทวีปที่มีแต่ความมืดมิดเป็นเวลานานหลายเดือนแต่จะอย่างไงเรื่องนี้มันก็จะเป็นแค่เพียงในอดีตเพราะในช่วงในเวลาที่มันอุดมสมบูรณ์แบบนั้นมันก็ได้สิ้นสุดลงเมื่อเวลาประมาณ251ล้านปีก่อนและที่มันจะต้องเหลือแค่เพียงซากมันก็จะเป็นเพราะสภาพอากาศที่แปลปวนมันจึงทำให้ป่าและสัตว์ที่มีชีววิตต่างๆได้สูญพันธ์ไปจนเกือบหมดสิ้นหลงเหลือทิ้งเอาไว้ก็แต่ซากของฟอซซิลเอาไว้ให้ดูเพียงต่างหน้าเท่านั้น