ดาวเคราะห์น้อยพุ่งเฉียดโลก

ดาวเคราะห์น้อยพุ่งเฉียดโลก

นอกจากนี้ได้มีนักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ชื่อดังของต่างของสหรัฐรายงานข่าวด่วนเข้ามาว่าด้านสำนักงานบริหารอวกาศและการบินสหชาติสหรัฐหรือว่านาซาตอนนี้ได้มีการประกาศเตือนว่าจะมีดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดใหญ่กว่าตึกในนครนิวยอร์กจะพุ่งเฉียดโลกในอีก4วันข้างหน้าก็คือวันเสาที่10สิงหาคมนี้

ซึ่งมันจะเฉียบโลกเฉยทุกคนไม่ต้องไปแตกตื่นรู้สึกว่าเหมือนจะมีคลิปลักษณะของดาวเคราะห์น้อยเขาได้บอกเอาไว้ว่าภาพของข่าวด่วนวันนี้ได้ออกตีแผ่ไปทั่วโลกและดาวเคราะห์น้อยนี้ได้มีชื่อว่า2006qq23ซึ่งได้มีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า350เมตรถ้าเราเปรียบเทียบกันง่ายๆเลยในรู้ภาพคือมันจะเฉียดโลกในวันเสาที่10สิงหาคมจนทำให้หลายฝ่ายได้วิตกกังวลว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นไหมกับโลกของเราถึงขนาดที่ว่าได้มีการประเมินสถานการณ์แล้วว่า

ในขณะนี้มันอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อโลกของเราได้โดยผู้เชียวชาญทางนาซาได้ประเมินว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้น่าจะเคลื่อนผ่านโลกโดยได้มีระยะห่างจากโลกประมาณ7.4ล้านกิโลเมตร

โดยผู้อำนายการใหญ่ทางนาซาได้เตือนว่ารัฐบาลแต่ละแห่งทั่วโลกควรจะต้องเตรียมความพร้อมแล้วในการป้องกนประชาชนของตัวเองจากการคุกคามของดาวเคราะห์น้อยถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่มันจะพุ่งชนโลกยังถือว่ามันยังคงมีอยู่ในระดับต่ำแต่มันจะมีโอกาศที่จะเกิดขึ้นมาได้และถ้ามันเป็นแบบนี้จริงอยากจะถามว่ามันจะเป็นยังไงบ้างเราลองมาเทียบเส้นผ่าศูนย์กลางกับตึกเอ็มไพร์สเตทดาวเคราะห์กับตึก

ซึ่งได้กล่าวเอาไว้ว่าเส้นผ่าศูนย์กลางพอๆกันเลยเส้นผ่าศูนย์กลางดาวเคราะห์น้อย570เมตรจากการคาดการของนาซาและเมื่อเราได้เอาไปเปรียบเทียบมันจะเท่ากับตึกเอ็มไพร์สเตทซึ่งได้มีความสูง443เมตรและระยะเวลาอีก4วันคือวันที่10สิงหาคมมันจะเฉียดเข้าสู่โลกและได้มีการประเมินกันว่าถือว่ามันควรจะต้องรีบมีการป้องกัน

เนื่องจากนี้เราก็ได้ไปถาทางด้านอาจารย์สวัสดีนายกดาราศาสตร์ไทยว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมทางนาซาได้ออกมาเตือนกันแบบนี้ปรากฎว่าทางด้านของอาจารย์อารีได้อกกับเราว่าถ้าเทียบกับระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์เอาง่ายๆเลยมันจะมีความห่างถึงประมาณ18เท่า

โดยปกติแล้วโลกกับดวงจันทร์นั้นมีระยะห่างประมาณ380,000กิโลหรือเรียกว่า1เท่าดังนั้นเมื่อได้ฟังข้อมูลแล้วจะเห็นว่ามันค่อนข้างที่จะอยู่ไกลพอสมควรเราไม่สามารถที่จะมองเห็นมันได้ดวงตาเปล่าจะต้องใช้กล้องที่มีขนาดใหญ่ในการส่องดาวเคราะห์น้อยที่มันกำลังจะพุ่งเข้ามาเฉียบโลกส่วนที่บอกว่ามันจะใกล้โลกมากๆที่มันอาจจะมีความอันตรายกับโลกเลยบอกเลยว่ามันไม่ได้มีผลอะไรกับโลกของเรา

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  rb88 pantip

มนุษย์ต่างดาวเพาะพันธุ์โดยใช้มนุษย์

                ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดตามหรือชื่นชอบในเรื่องของมนุษย์ คุณคงจะเคยได้ยินสินะว่าได้มีผู้ที่อ้างว่ามนุษย์ต่างได้มารักพาตัวไป เอาล่ะเมื่อพูดมาถึงตรงนี้แล้วหากใครที่ไม่ได้เป็นผู้ที่ติดตามในเรื่องของมนุษย์ต่างดาวก็อาจจะงงกัน ก่อนที่จะบอกว่ามนุษย์ต่างดาวทำอย่างนั้นจริงๆหรือ คงต้องเท้าความกันก่อนว่า มนุษย์ต่างดาวนั้นมีอยู่จริงหรือไม่

ถ้าคุณเป็นคนสงสัยในเรื่องนี้นั้นเกิดจากความที่คุณไม่เชื่อ หรือ คุณไม่เคนเห็นด้วยตัวของคุณเองเท่านั้น ในความเป็นจริงแล้วเรื่องของมนุษย์ต่างดาวนี่ถือว่าเป็นเรื่องซับซ้อนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ขนาดทางวิทยาศาสตร์เองก็ยังให้คำตอบที่แน่ชัดไม่ได้กับการมีอยู่ของมนุษย์ของมนุษย์ต่างดาว นั้นเป็นเพราะอะไร?

เพราะจักรวาลอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่ามันกว้างใหญ่ไพศาลมาก จุดเริ่มต้นและจุดที่สิ้นสุดนั้นอยู่ตรงไหนก็ไม่มีใครทราบได้ สิ่งหนึ่งที่วิเคราะห์จากการที่บอกว่ามีมนุษย์ต่างดาวอยู่จริงนั้นก็คือ การเกิดทฤษฎีบิ๊กแบง จากเหตุการณ์นั้นทำให้มีการนำมาตั้งคำถามหลายๆอย่าง ถ้าโลกเราเกิดจากการระเบิดครั้งนั้น แปลว่าจะต้องมีส่วนประกอบอื่นที่เกิดขึ้นจากการระเบิดครั้งนั้นกระเด็นไปในแต่ละทิศทางที่ห่างกันออกไป

เพราะถ้าโลกเกิดมาจากสิ่งๆหนึ่งที่เป็นสิ่งเดียวกันแล้วละก็ นั้นเท่ากับว่าจะต้องมีดาวที่เหมือนกับโลกอีกหลายดวงอย่างแน่นอน และไม่ใช่แค่เรื่องทรัพยากร แต่ยังหมายถึงการมีสิ่งชีวิตถือกำเนิดขึ้นอีกด้วย มันจึงเป็นไปได้ว่าการวิเคราะห์นี้จะแสดงถึงการมีอยู่จริงของมนุษย์ต่างดาว มาเข้าเรื่องของหัวข้อของเราดีกว่า มนุษย์ต่างดาวเพาะพันธุ์โดยใช้มนุษย์ นั้นเป็นคำล่าวจะมนุษย์โลกที่อ้างตัวว่า เขานั้นถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวไป

แล้วได้ไปเห็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งตัวเขาเองนั้นรอดเพราะร่างกายไม่มีเงื่อนไขที่มนุษย์ต่างดาวต้องการ สิ่งที่บุคคลคนนี้กำลังกล่าวนั้นหมายความว่า ในโลกของมนุษย์ต่างดาวนั้นได้มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ที่ก้าวไปไกลกว่าโลกของเราอย่างมาก เพราะสามารถสร้างยานพาหนะที่เดินทางมาด้วยความไวแสงได้ รวมไปถึงการเพาะพันธุ์โดยใช้มนุษย์ แต่นั้นเป็นสาเหตุอะไรที่ทำให้มนุษย์ต่างดาวต้องเพาะพันธุ์กลุ่มคนตัวเองจากมนุษย์

ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงนั้นไม่มีใครทราบได้ ว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นกำลังทดลองทำอะไรอยู่ แต่ถึงอย่างไรแล้วเรื่องนี้เราควรมีความเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า ยังไม่มีอะไรมาเป็นข้อพิสูจน์ได้ถึงการมีชีวิตอยู่ของมนุษย์ต่างดาว มีเพียวแค่การวิเคราะห์จากทฤษฎีที่ถูกสร้างขึ้นมากเท่านั้น

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  rb88

ไวรัสทำไมถึงเล่นงานปลอดมนุษย์เพียงอย่างเดียว?

ซึ่งในระหว่างนี้ในขณะที่มีเชื้อไวรัส-2019ได้กระจายตัวนั้นในช่วงแรกๆเราเองจะยังไม่รู้ตัวเราจะไม่รู้ตัวเลยว่าเชื้อนั้นมันได้เข้าไปอยู่ในร่างกายแล้วจนมันกระจายได้พอสมควรจากนั้นร่างกายเรามันก็จะเริ่มรู้แล้วว่าเริ่มมีสิ่งแตกปลอมเข้ามาในร่างกาย

นอกจากนั้นด้านกองทัพของภูมิคุ้มกันในร่างกายของเรามันก็จะรวบรวมกำลังออกมาสู้กับไวรัสและสำหรับในบางคนในช่วงนี้ที่ตัวเราจะเริ่มมีออกอาการไอจามและก็จะแพร่เชื้อต่อไปให้กับคนอื่นๆเพราะว่าเม็ดเลือดขาวนั้นที่มันได้เป็นภูมิคุ้มกันของเรานั้นมันเริ่มที่จะทำการต่อสู้กับเจ้าไวรัสที่มันได้เข้าไปอยู่ในร่างกายของเรา

ซึ่งพวกมันก็จะพยายามที่จะทำงานกันอย่างกันเพื่อสู้กับไวรัสเพื่อที่จะให้ไวรัสนั้นตายและในช่วงเวลานี้เองที่มันได้ทำให้เซลล์ปลอดได้เกิดความเสียหายเกิดเป็นบาดแผลแล้วก็เป็นแผลเป็นทีนี้เราทำไมมันถึงจะต้องมาเป็นเจ้าไวรัสโคโรน่าสายพันใหม่-2019ที่ก่อให้เกิดเจ้าโควิดได้อย่างรวดเร็วกว่าไวรัสโคโรน่าสายพันอื่นๆ

นอกจากนี้ได้มีงานวิจัยได้ตีพิมพ์ในวันที่13มีนาคม ได้พบจุดที่น่าสนใจก็คือว่าเจ้าสไปโปรตีนหรือเจ้าหนามของไวรัสโคโรน่าสายพันใหม่-2019มันสามารถจับได้กับตัวรับรีซิสเตอร์หรือในเซลล์Genetic Material ที่อยู่ในร่างกายของมนุษย์ได้หนาแน่หรือยึดแน่นกว่าไวรัสโคโรน่ากว่าสายพันอื่นอย่างเช่นสายพันที่ทำให้เกิดโรคซาร์สถึง10เท่า

นอกจากนี้มันยังได้มีการตีบทความอ้างอิงในงานวิจัยต่างๆว่าสไปโปรตีนไวรัสโคโรน่าสายพันใหม่-2019ก็แข็งแรงกว่าสไปโปรตีนของโคโรน่าสายพันที่มันสามารถทำให้ก่อเกิดโรคซาร์สถึง4เท่าพูดง่ายๆว่าความรุนแรงของมมันที่ได้เข้าได้แบ่งตัวแล้วทำร้ายเซลล์ในร่างกายของเราอาจจะไม่เท่าซาร์สหรือเบอร์แต่มันดันไปเกาะกับACE-2ได้อย่างหนาแน่นกว่าทั้งซาร์สหรือเบอร์เราจะเพิ่มความเข้าใจให้กับทุกคนนิดนึงเกี่ยวกับตัวรับหรือว่ารีซิสเตอร์

ซึ่งไวรัสโดยปกติแล้วมันจะมีคุณบัติของมันในตัวซึ่งมันจะมีการตอบสนองต่อเซลล์ในแต่ละเซลล์ของร่างกายของสิ่งมีชีวิตไม่เหมือนกันและก็ได้มีสามารถในการอยู่รอดในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตแต่ละอย่างก็มีความแตกต่างกันอย่างเช่นไวรัสชนิดหนึ่งอาจจะสามารถเกาะติดกับเจ้าสิ่งมีชีวิตได้หลายประเภททั้งคนและก็สัตว์หรือตัวรับสามารถพบได้ทุกส่วนของร่างกายก็จะทำให้ติดเชื้อในหลายระบบของร่างกายไม่ใช่เพียงแค่ปลอดแต่ส่วนอื่นๆด้วย

 

สนับสนุนโดย  betbbthai

มนุษย์ ก็คือ มนุษย์ต่างดาว

คุณเคยเห็นมนุษย์ต่างดาวตัวจริงหรือไม่? แต่จะว่าไปแล้วคนที่ได้พบกับมนุษย์ต่างดาวนั้นก็ถือว่ามีน้อยมากเลยนะ ซึ่งทำให้ได้มีกลุ่มคนทั้งให้ความเชื่อกับเรื่องนี้ และที่ไม่ให้ความเชื่อนั้นเป็นเพราะหาสิ่งที่นำมาพิสูจน์ไม่ได้ และไม่เคยเห็นกับตาของตัวเอง สิ่งหนึ่งที่เรามักจะคิดว่าอยู่เสมอเรื่องมนุษย์ต่างดาวนั้นก็คือ สิ่งมีชีวิตเราเหล่านั้นที่เราเรียกเขาว่ามนุษย์ต่างดาว เป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่นอกดาวโลกของเรา

นั้นหมายถึงว่าเขาเดินทางมาจากดาวดวงอื่นๆที่อยู่นอกโลก แต่อาศัยอยู่จักรวาลเดียวกันกับเราหรือต่างจักรวาล ซึ่งถือว่าแนวคิดนี้ถูกการเผยแพร่ออกไปเป็นวงกว้าง แต่ถึงอย่างไรนั้นก็ใช่ว่าจะมีคนเชื่อ แต่เพราะมีคลิปวิดีโอถูกปล่อยออกมา ซึ่งเป็นคลิปที่ถูกอ้างว่าเป็นการบันทึกภาพวิดีโอการสอบปากคำจากมนุษย์ต่างดาวตัวจริง

โดยฐานลับสุดยอดของอเมริกา หรือที่ทราบกันดีในชื่อ แอเรีย 51 เมื่อปีค.ศ.1964 ซึ่งได้นำมนุษย์ต่างดาวที่พบและจับกุมตัวเอาไว้มาสอบปากคำต่างๆ ซึ่งหนึ่งในคำถามนั้นก็คงหนีไม่พ้นกับคำถามที่ใครๆต่างก็อยากทราบว่าให้แน่ชัดว่า แท้จริงแล้วมนุษย์ต่างดาวนั้นเดินทางมาจากที่ไหน ดาวดวงใด จักรวาลแห่งนี้ใช่หรือไม่ แล้วเดินทางมายังดาวโลกที่มนุษย์เราอาศัยอยู่ทำไม ซึ่งคำตอบของมนุษย์ต่างดาวนั้นอาจจะดูฟังแล้วสับสนในตอนแรก แต่ถ้าหากลองจับจำใจความดีๆแล้วก็คงพอเข้าใจได้ไม่ยาก มนุษย์ต่างดาวที่ถูกสอบปากคำนั้นได้ให้คำตอบว่า พวกเขานั้นไม่ได้เดินทางมาจากที่ไหน

ไม่ได้มาจากดาวดวงอื่น แต่พวกเขานั้นคือเรา ใช่ คำตอบของมนุษย์ต่างดาวนั้นหมายถึงว่ามนุษย์เรากับมนุษย์ต่างดาวคือสิ่งเดียวกัน อาจจะฟังดูงง ซึ่งในคำถามต่อมานั้นก็คือ จะบอกว่าเราในอนาคตเปลี่ยนสายพันธุ์เป็นพวกคุณใช่หรือไม่ สิ่งที่มนุษย์ต่างดาวตอบคือ ใช่ ในอนาคตมนุษย์จะมีการเปลี่ยนแปลงทางสปีชีส์ และโครงสร้างของร่างกาย ทำให้มนุษย์ในยุคปัจจุบันไม่สามารถอาศัยอยู่ต่อไปได้

จะมีเพียงมนุษย์บางส่วนเท่านั้นที่จะสามารถรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่โลกเปลี่ยนไปได้ และคำตอบนี้ก็ดูจะเป็นที่น่าตกใจต่อเจ้าหน้านี้ นั้นหมายความว่าพวกเขาได้ย้อนเวลากลับมาอีกอย่างนั้นหรือ แล้วกลับมายังอดีตเพื่ออะไร ซึ่งคำตอบของมนุษย์ต่างดาวก็คือ ในอนาคตเทคโนโลยีจะก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ที่เดินทางกลับมานั้นเพื่อจะหาสาเหตุในอดีตว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเพียงเท่านั้น

ไม่ต้องการกลับมาเพื่อแก้ไขแต่อย่างนั้น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนเพราะในโลกอนาคตของพวกเขานั้นถูกจารึกเหตุการณ์เหล่านั้นไว้เรียบร้อยแล้ว และนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของคลิปวิดีโอลับนี้ ในส่วนที่เหลือคือการพูดถึงการเกิดจักรวาล การเกิดโลก การเกิดมนุษย์ การที่มนุษย์สูญพันธุ์ แต่ถึงอย่างไรนั้นก็ไม่มีข้อมูลแน่ชัดแต่อย่างใดว่าคลิปวิดีโอเป็นของจริง ฉะนั้นแล้วเรื่องอาจจะต้องทำการพิสูจน์และตรวจสอบกันต่อไป

 

สนับสนุนโดย    ซื้อหวยฮานอยออนไลน์

การออกเพื่อสำรวจของโรเวอร์

มาร์ส คิวริออสซิตี ราคา 2,500ล้านเหรียญ เป็นโรเวอร์ที่ล้ำยุคที่สุดที่เคยตรวจสอบสภาพของดาวอังคารเว้นเสียแต่เก็บรูปถ่ายความคมชัดสูงแล้วก็ตัวอย่างของอากาศกับลมในเวลาที่มันเดินทางผ่านผิวดาวแล้วมันยังสามารถหมุนกล้องถ่ายภาพได้เองด้วยความรู้ความเข้าใจที่ทำให้วิศวกรนาซ่าวิเคราะห์รวมทั้งไขปัญหาจากโลกได้น่าประหลาดที่ใน50วันสุริยะที่ทำภารกิจโรเวอร์ส่งภาพลึกลับกลับมายังโลก

แสดงสิ่งที่นักวิจัยบางบุคคลมองเห็นเป็นเงารูปร่างเหมือนมนุษย์กำลังปฏิบัติงานกับโรเวอร์เมื่อมองดูจากภาพพวกเราจะมองเห็นคนที่ตรงนั้นแล้วก็ถึงแม้พวกเขามิได้สวมหมวกแต่ว่าดูราวกับว่าจะใส่วัสดุอุปกรณ์แล้วก็แว่นอะไรบางอย่างแล้วทำให้คนคาดการณ์ว่าสิ่งที่ทำอยู่บนดาวอังคารอาจมีมากยิ่งกว่าที่นาซ่าและก็แผนการอวกาศของกองทัพกล่าวว่าพวกเราทำได้นาซ่าเข้าใจดาวอังคารมากยิ่งกว่าที่บอกพวกเราเยอะแยะพวกเขาปลดปล่อยรูปพวกเขายอมปล่อยข่าวพวกเขามิได้เอ่ยถึงมันโดยรวมแต่ว่าพวกเพียงแค่ยินยอมให้ผู้ที่มีตาผู้ที่ต้องการมองเห็นดูของเหล่านี้

แล้วเข้าใจว่ามันเป็นยังไงแต่ว่าพวกเขาไม่บอกอะไรเนื่องจากว่าพวกเขาถูกผูกมัดด้วยความเป็นจริงทางด้านการเมืองนั่นเอง จอร์ช นูรี นักทอล์ค โชว์ทางวิทยุมีชื่อวัย 68ปี ได้บอกว่าพวกเราได้รับโทรศัพท์จากคนชื่อแจ็คกี้

ซึ่งกล่าวถึงว่าเธอเป็นอดีตพนังงานของนาซ่าเธอเล่าเรื่องใหญ่ว่ายานโรเวอร์ของพวกเราส่งภาพที่นาซ่าได้อุบเอาไว้ภาพมนุษย์กำลังเดินไปเดินมาบนดาวอังคารและก็เธอน่าไว้ใจเป็นอันมากเธอดูเหมือนจะทราบดีว่าเรื่องที่เธอกล่าวกำลังพูดถึงอะไรอยู่มีทฤษฏีเสมอว่ามีแผนการอวกาศซ้อนโครงการอวกาศที่พวกเราทราบมันเป็นแผนการลับมันเป็นโครงงานที่เงินหลายล้านล้านเหรียญได้หายไปเฉยๆ

และไม่มีคนไหนทราบว่าเงินหายไปไหนไม่มีผู้ใดรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นรูปถ่ายจำนวนไม่ใช่น้อยได้รับการรับรองแล้วก็เฉลยคำตอบแล้วว่าไม่ใช่หลักฐานของอารยธรรมจากต่างดาวบนดาวอังคารนั่นรวมถึงใบหน้าบนดาวอังคารด้วยซึ่งโดยความเป็นจริงแล้วที่พวกเรามองเห็นเป็นใบหน้านั้นมีสาเหตุมาจากแสงแล้วก็เงาที่ตกกระทบกันนั่นเองแล้วก็ถึงแม้ว่าหลายภาพได้ถูกพิสูจน์สุดแท้แต่ก็ไม่อาจจะไขปัญหาของภาพได้ทั้งหมด

ได้แฮกเกอร์ชาวสก็อตแลนด์ชื่อแกรี่แมคคินนอนแฮ็กฐานข้อมูลของที่นาซ่าแล้วก็เจอไฟล์ที่มีรายนามของสิ่งที่เรียกว่าเจ้าหน้าที่นอกโลกเจ้าหน้าที่ในกองทักที่อาศัยรวมทั้งดำเนินงานอยู่นอกดาวโลกของพวกเรา

ซึ่งนอกโลกมิได้เป็นดาวอังคารเสมอไปแต่ว่ามันหมายความว่าในอวกาศแล้วก็มันระบุว่ามีแผนการอวกาศลับสุดยอดบางสิ่งที่ประชาชนไม่เคยรับรู้อาจมีดำเนินการลับของทหารสหรัฐบนดาวอังคารใช่หรือไม่ถ้าหากมีมันเกิดขึ้นนานมากแค่ไหน

 

 

สนับสนุนโดย  next88 บาคาร่า

สนามแม่เหล็กหายเมื่อโลกหยุดหมุน

หัวข้อในบทความนี้จะมาพูดถึงเรื่องการที่สนามแม่เหล็กของโลกหายไป ที่สาเหตุมาจากการที่โลกหยุดหมุนรอบตัวเอง ในความเป็นจริงแล้วการที่โลกหยุดหมุนรอบตัวเองนั้นไม่ได้เกิดผลเสียต่อเรื่องสนามแม่เหล็กอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีปรากฏการณ์ต่างๆที่จะสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อโลกหยุดหมุนรอบตัวเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อสันนิฐานของการเกิดปรากฏการต่างจากการที่โลกหยุดรอบตัวเองนั้น

ในทางของวิทยาศาสตร์เองก็ไม่ให้คำตอบที่เป็นสิ่งยืนยันไม่ได้ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่วิทยาศาสตร์สามารถยืนยันได้ก็คือการหมุนรอบตัวเองของโลกจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเวลาอย่างแน่นอน ข้อสันนิฐานในเรื่องของเวลานั้นก็คือ โลกของเรานั้นจะมีเวลาที่ยาวนานมากขึ้น

โดยปกติอย่างที่ทราบกันดีว่า 1 วัน จะเท่ากับ 24 ชั่วโมงเท่านั้น แต่เมื่อโลกหยุดหมุนรอบตัวเองจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยที่ 1 วัน จะเท่ากับ 365 วัน ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากที่เราจะข้ามไปพบกับเวลาช่วงกลางวันหรือกลางคืนของวันถัดไป และในส่วนของเรื่องปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นก็คือ ทุกอย่างบนโลกจะลอยขึ้นมาได้ ทั้งสิ่งของและสิ่งมีชีวิตอย่างมนุษย์และสัตว์ก็ด้วย ต่อมาจะเกิดแรงเหวี่ยงอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างที่ลอยจะถูกเหวี่ยงที่มาพร้อมกับพายุที่มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก ยังทำให้พลังงานบนโลกหยุดการทำงาน ส่งผลต่อระดับน้ำในทะเลและน้ำในมหาสมุทรที่จะสูงเพิ่มมากขึ้น

ทำให้เกิดคลื่นยักษ์กลายเป็นสึนามิที่จะทำให้พื้นแผ่นเกิดความเสียหาย ชั้นบรรยากาศของโลกทุกๆชั้นจะมีความแปรปรวน การไหลเวียนของอากาศจะมีปัญหา พื้นที่น้ำที่อยู่ตรงเส้นศูนย์สูตรจะเกิดแรงเหวี่ยงทำให้แทรกไปยังพื้นแผ่นดิน ก่อให้เกิดความแยกของแผ่นออกไปทางฝั่งขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ มีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตจะกลายเป็น 2 ทวีปโดยไม่มีการแบ่งชื่อทวีปอย่างในปัจจุบัน เมื่อแบ่งเป็น 2 ทวีปแล้วยังไม่พอ โลกก็ยังจะเหลือแค่ 2 ฤดูอีกด้วยนั้นก็คือฤดูร้อนกับฤดูหนาวเท่านั้น ที่จะมีระยะเวลาของแต่ละฤดู 6 เดือนเท่าๆกัน

และโลกจะมีความคล้ายกับดาวพุธที่เมื่อหยุดหมุนแล้วโลกจะถูกแย่งออกเป็น 2 ฝั่งอย่างชัดเจนคือ ฝั่งหนาวและฝั่งหนาว โดยแต่ละฝั่งจะไม่มีทางได้สัมผัสสภาพอากาศของอีกฝั่งอย่างแน่นอน มาในส่วนของเรื่องสนามแม่เหล็กที่หายไป การที่สนามแม่บนโลกหายไปนั้นส่งผลทำให้โลกเราศูนย์เสียการปกป้องรังสีที่เข้ามาทำร้าย โลกจะต้องเจอรังสีและลมสุริยะเข้ามาปะทะอย่างรุนแรง

ซึ่งทำให้สิ่งมีชีวิตและมนุษย์ไม่สามารถที่จะอยู่รอดได้ เหตุการณ์เหล่านี้เป็นเพียงแค่การสันนิฐานที่อาจจะเกิดขึ้นจริงในอีกหลายล้านปีข้างหน้า ซึ่งเราที่อยู่ในปัจจุบันอาจจะได้พบเจออย่างแน่นอน แต่ถ้าหากว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ เชื่อเถอะว่าในเวลานั้นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีบนโลกเราอาจจะมีการพัฒนาที่ล้ำสมัยมากเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้ก็ได้

 

สนับสนุนโดย  entaplay ดาวน์โหลด

ทฤษฎีSailing Stonesที่เชื่อว่าทำให้หินโมไอเคลื่อนที่

สำหรับเรื่องราวของหินโมไอมันก็ได้มีอยู่อีกหนึ่งทฤษฎีที่เขาเรียกกันว่าSailing Stones โดยการปรากฏการณ์Sailing Stonesครั้งนี้มันคือปรากฏการณ์ที่หินมันสามารถที่จะขยับได้โดยที่ไม่ต้องมีแรงพลักไม่ต้องมีแรงดันหรือไม่ต้องมีใครเข้ามากระทำกับมันเลย ซึ่งหลักการตรงนี้เขาได้มีการอธิบายเอาไว้ว่าในการที่จะเกิดSailing Stonesนั้น

มันจะต้องมีอยู่สามปัจจัยด้วยกันที่มันจะเกิดก็คือ มันจะต้องมีน้ำที่ละลายมาจากน้ำแข็งจะต้องมีน้ำค้างน้ำแข็งและจะต้องมีลมหรือมีอะไรชักอย่างที่มันพอจะเป็นแรงพลักเล็กๆน้อยๆั่นเอง โดยหลักการในการทำงานเขาบอกว่าได้มีหินวางอยู่บริเวณพื้นผิวน้ำที่เป็นน้ำละลายจากน้ำแข็งและเมื่อถึงฤดูหนาวที่มันสามารถทำให้น้ำกลายได้นั่นมันก็จะทำให้น้ำตรงนั้นเคลือบตรงบริเวณของหิน

และทำให้อุณหภูมิของหินเยนตัวลงอีกด้วยและเมื่อระยะเวลาผ่านไปจนทำให้น้ำแข็งนั้นละลายอุณหภูมิขอหินมันก็ยังเย็นตัวอยู่และยังมีน้ำแข็งเกาะอยู่ที่บริเวณโดยรอบจึงทำให้แรงเสียดทานลดลงเป็นจำนวนมากจนมันสามารถทำให้หินมันสามารถเคลื่อนได้ด้วยตัวของมันเองได้นั่นเองแต่ตรงนี้ต้อขอบอกก่อนว่ามันก็จะมีทั้งคนเชื่อและคนไม่เชื่อคนที่เชื่อตรงนี้ก็มีคนที่เชื่อว่าโมไอมีชีวิตก็มีและก็ยังมีคนที่เชื่อว่ามันอาจจะมีทฤษฎีอื่นมันก็ยังมีเช่นกันแต่ถามว่าปริศนาโมไอบนเกาะอีสเตอร์มันหมดแต่เพียงเท่านี้หรือเปล่าเอาจริงๆแล้ว

มันยังมีอีกถ้าเอาล่าสุดที่พึ่งค้นพบและล่าสุดที่พึ่งขุดเจอเลยคือได้มีการค้นพบท่อนตัวท่อนไหล่และลำตัวของโมไอที่ได้ถูกฝั่งเอาไว้อยู่ใต้ดินด้วยและที่ สำคัญไปกว่านั้นก็คือบนลำตัวของโมไอที่เขาได้มีการขุดค้นพบมันได้มีลาดลายบางอย่างถูกสลักเอาไว้ นักวิทยาศาสตร์บางคนเขาเชื่อว่ามันอาจจะเป็นลาดลายของเสื้อหรือมันอาจจะเป็นลาดลายที่เขาได้มีการสลักเอาไว้แต่ สำหรับบางคนเขาได้เชื่อกันว่าลาดลายสลักตรงนี้

มันอาจจะมีที่มาที่ลึกซื้งไปกว่านั้นและถ้าเราได้ไขปริศนาตรงนี้ได้มันก็อาจจะบ่งบอกถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงในการสร้าโมไอขึ้นมาก็เป็นได้และลอยสลักตรงนี้เราก็ได้ไปดูมาเอาจริงๆเราก็ไม่อยากมโนขึ้นมาแต่มันก็มีความคล้ายกับตัวอักษรของอียิปต์โบราณบางตัวเหมือนกันตรงนี้มันก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละบุคคล ซึ่งมันก็ยังไม่ไดมีการพิสูจน์อะไรก็รอดูในอนาคตก็แล้วกัน

 

สนับสนุนโดย  ทางเข้า entaplay

สโตเฮดในกัวเตมาลาได้ถูกค้นพบอายุราวประมาณ3,500ถึง5,000ปีก่อน

ชิ้นส่วนของยูอฟโอ

ในช่วงยานเย็นของฤดูหนาวในปี2013ในขณะที่ชาวบ้านคนหนึ่งที่อยู่ในเมืองวลาดีวอสตอค ประเทศรัสเซียกำลังเผาถ่านจุดไฟอยู่นั้นเขาก็ได้พบกับวัตถุโลหะปริศนา ซึ่งได้อยู่ติดในถ่านก้อนหนึ่งที่เขาเตรียมเอาไว้จุดไฟโดยมีขนาดประมาณ2.75นิ้ว ลักษณะเหมือนเฟืองที่ดูเป็นส่วนประกอบของเครื่องจักรกลในสมัยใหม่

แต่เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้นำชิ้นส่วนนี้ไปตรวจสอบจังได้พบว่าวัตถุนี้ได้มีอายุประมาณ300ล้านปี ซึ่งมันก็ได้ประกอบไปด้วยอลูมิเนียม98%และแมกนีเซียม2%ด้วยรูปร่างของววัตถุที่ได้มีความแตกต่างและมีความเข้มข้นของอลูมิเนียมสูง ซึ่งคนส่วนใหญ่แล้วจึงเชื่อกันว่ามีวัตถุนี้ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเองได้ตามธรรมชาติหลังจากนั้นจึงได้มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่าสิ่งนี้มันน่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ต่างดาว

หรือมันน่าจะเป็นชิ้นส่วนของยานอวกาศที่ครั้งหนึ่งมันเคยตกลงมาชนกับผิวโลกโดยได้มีการสังเกตถึงความใกล้เคียงกับวัตถุจากอวกาศที่เคยมีการพบ ซึ่งได้เป็นอลูมิเนียมที่สามารถแตกตัวกลายเป็นแมกนีเซียมในเวลาต่อมา

สโตเฮดในกัวเตมาลา

ว่ากันว่ารูปภาพนี้มันได้ถูกถ่านขึ้นเมื่อปี1950 ซึ่งมันได้เป็นภาพของหินทรายที่ได้ถูกแกะสลักเป็นศีรษะของมนุษย์ที่ได้มีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ภายในป่าลึกของกัวเตมาลา นักโบราณคดีได้คำนวณแล้วว่าความสูงของรูปแกะสลักนี้แท้จริงแล้วได้มีความสูงประมาณ9เมตรและมันได้ถูกสร้างขึ้นในช่วง3,500หรือ5,000ปีก่อนคริสตกาลโดยลักษณะหน้าตาของรูปแกะสลักเหล่านี้ได้มีความแตกต่างจากลักษณะของศิลปะในยุคก่อนโคลัมเบียนเมโสอเมริกัน

นอกจากนี้แล้วมันยังได้มีลักษณะที่ไม่เหมือนกับศีรษะยักษ์ของชาวโอลเมคที่ถูกค้นพบในบริเวณเดียวกันและด้วยลักษณะของศีรษะนั้นที่มีความยาวผิดรูปจากมนุษย์ปกติมันจึงได้ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับที่มาของมันอีกด้วยว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาวในช่วงยุคโบราณที่ได้เคยมาตั้งอาณานิคมบนโลกแต่มันก็ต้องน่าเสียดายที่ในช่วงปลายยุค1980ได้มีการกล่าวเอาไว้ว่าศีรษะของหินดังกล่าวนั้นมันได้ถูกทำลายลง

โดยกลุ่มของนักปฏิวัติอีกทั้งยังได้พบซากฟอสซิลที่อยู่ในอุกกาบาตซึ่งในปี2012ได้มีการค้นพบเศษอุกกาบาตที่มันได้ตกลงมาในบริเวณใกล้กับเมืองโพลอนนารุวาประเทศศรีลังกาโดยนักดาราศาสตร์นามว่า ชานดราวิกคัมมาซิงฮะ ชานดราได้อ้างว่าเมื่อเขาตรวจสอบวัตถุด้วยการใช้เทคนิคในการเลี้ยวเป็นของรังสีเอ็กซ์และการวิเคราะห์ไอโซโทปได้พบว่ามีสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกอยู่ภายในก้อนอุกกาบาตนี้

 

ขอขอบคุณ  entaplay online gambling  ที่ให้การสนับสนุน

การค้นพบที่มีอายุหลายร้อยล้านปี

สำหรับบนโลกของเรานั้นต่างก็ได้มีเรื่องราวต่างๆที่ให้เราได้ทำการศึกษามากมายและได้เรียนรู้บอกได้เลยว่ามันไม่มีวันที่จะหมดสิ้น ซึ่งการที่เราทุกคนนั้นจะสามารถก้าวเข้าไปค้นพบในสิ่งใหม่ๆนั้นทุกๆคนก็ได้ลงแรงลงใจก็ยังไม่สามารถที่จะพบเจอกับสิ่งที่พวกเรากำลังได้ค้นหา

ซึ่งยังได้มีบุคคลอีกหลุ่มหนึ่งที่ได้ทำสำเร็จและพวกเขาเหล่านั้นก็ได้ค้นพบสิ่งที่มันได้มีประโยชน์สำหรับคนในรุ่นหลังเป็นอย่างมากเลยทีเดียวและวันนี้เราก็จะพาไปดูสุดยอดในการค้นพบทางธรณีวิทยาและมนุษย์วิทยาและจะมีการค้นพบอะไรบ้างมาดูกันเลย

Toumai Skull

ซึ่งในปี2002 ก็ได้มีการขุดค้นพบซากขอมนุษย์ดึกดำบรรพ์ที่ได้อยู่ทางทะเลทรายตอนใต้ของซาฮาร่า ซึ่งสิ่งที่พวกเขาได้มีการค้นพบนั้นมันได้เป็นซากของกระโหลกศีรษะของมนุษย์ที่ได้มีอายุราวๆประมาณ6.8หรือ7.2ล้านปีจากที่ได้มีการศึกษามาจากนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งพวกเขาก็ยังได้พบอีกว่ากระโหลกศีรษะนี้ ซึ่งมันได้มีลักษณะที่ดูคล้ายกับกระโหลกศีรษะของลิงชิมแปนซี และมันอาจจะเป็นไปได้เลยว่า ลิงชิมแปนซีนั้นมันอาจจะเป็นบรรพบุรุษของเหล่ามนุษย์ทางตอนใต้และทางตะวันออก

Laetoli Footprints

เมื่อในปี1978 ซึ่งทางนักธรณีวิทยาเขาได้ค้นพบรอยเท้าที่เป็นซากฟอสซิลที่ดูเหมือนว่าเป็นรอยเท้าของมนุษย์Laetoli Footprintsซึ่งได้มีอายุราวๆประมาณ3.5ล้านปีที่ประเทศแซนทาเนีย  ซึ่งรอยเท้าดังกล่าว ซึ่งได้มีการสันนิษฐานว่าได้มีรอยเท้าทับกันไว้อีกทีในช่วงที่กำลังเดินอยู่บนภูเขาไฟที่มันได้มีลักษณะเหมือนกับคอลกรีตเปลียก

นอกจากนี้ยังได้วิเคราะห์อีกว่า มนุษย์คนไหนที่เป็นเจ้าของรอยเท้านี้อาจจะมีรูปร่างลักษณะที่แข็งแรงซึ่งได้มองดูจากรอยเท้าที่ได้มีการก้าวที่ยาวและได้มีความมั่นคงมันอาจจะเชื่อได้เลยว่าในช่วงของเวลานั้นก็ได้มีเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ที่ได้เดินหลังตรงแล้วทั้งนี้ยังได้มีการค้นพบLucy Australopithecus Afarensis

ซึ่งทางด้านDonald jonhson เขาได้มีการค้นพบซากกระดูกของมนุษย์ที่สันนิษฐานว่าเป็นกระดูกของเพศหญิงที่ได้มีอายุราวประมาณ3.2ล้านปี ซึ่งถือว่าได้เป็นการค้นพบซากฟอสซิลของมนุษย์ที่ได้มีอายุเยอะมากที่สุดบนโลกใบนี้เลยก็ว่าได้อีกทั้งยังได้เป็นสิ่งเดียวของโลกที่ได้มีการค้นพบสิ้นที่มันได้มีอายุยืนยาวขนาดนี้ ซึ่งในช่วงเวลาเหล่านั้นก็อาจจะมีเผ่าพันธุ์ที่ได้มีมนุษย์เกิดขึ้นมาอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์แล้วเช่นกัน

 

ขอขอบคุณ  entaplay แทงบอลออนไลน์  ที่ให้การสนับสนุน

แมลงสาบกำจัดให้หายไปได้จริงหรือ

       แค่ได้ยินชื่อว่าเป็นแมลงสาบก็สามารถทำให้หลายๆคนนั้นรู้สึกขนลุก รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันที เชื่อว่าหลายๆคนไม่ได้พอใจในตัวของแมลงชนิดกันสักเท่าไหร่ ออกแนวจะรังเกียจไม่ชอบ และเมื่อใดที่เจอก็อยากจะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดเสียด้วยซ้ำ เพราะด้วยความขึ้นชื่อในเรื่องของชนิดแมลงที่เป็นพาหะของเชื่อโรค และกลิ่นที่สาบสมกับชื่อของมัน จึงเป็นเหตุผลให้คนไม่ได้รู้สึกกับแมลงชนิดนี้ในทางที่ดีเลยก็ว่าได้

      เป็นที่มาให้เกิดการวิจัยคิดค้นหาวิธีเพื่อที่จะได้กำจัดแมลงชนิดนี้ให้หายไป แต่รู้หรือไม่ว่าแมลงสาบในยุคนี้นั้นมันได้มีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนจนทำให้วิธการมากมายที่มนุษย์คิดค้นมาเพื่อที่จะกำจัดมันเริ่มที่จะไร้ซึ่งความหมายและประโยชน์ไปเลย โดยจากผลงานวิจัยที่ทางประเทศสหรัฐอเมริกาได้ค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้นมีการค้นพบความจริงที่ว่าหนึ่งในชนิดของพวกแมลงสาบที่คนเราพบเจอกันได้อย่างแพร่หลาย

ในแต่ละประเทศทั่วโลกซึ่งแน่นอนว่าก็รวมถึงประเทศไทยด้วยนั้น เหล่าแมลงสาบได้เกิดการพัฒนาเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันที่มีต่อยาฆ่าแมลงโดยการปรับตัวได้กับยาที่มีฤทธิ์รุนแรงที่สุดได้รวดเร็วและดีมากขึ้นจากเดิม พวกมันมีกระบวนการในการถ่ายทอดภูมิคุ้มกันไปสู่รุ่นลูกได้ ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์หลายๆคนได้คาดการเอาไว้ว่าในการที่คนเราจะใช้ยาฆ่าแมลงต่างๆในการช่วยกำจัดเหล่าแมลงสาบแค่เพียงอย่างเดียวนั้นก็คงจะกลายเป็นวิธีการที่จะกำจัดความรำคาญจากเหล่าแมลงสาบ

ที่ไม่ใช้ไม่ได้ผลกับเหตุการณ์นี้ได้อีกต่อไป โดยทางกลุ่มของนักวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้จากการทำการทดลองโดยการใช้ยาฆ่าแมลงจำนวน 3 ชนิดด้วยกันในการทำการทดลองกับแมลงสาบแต่ละชนิดในประเทศสหรัฐฯซึ่งมีการใช้ระยะเวลาในการทดลองเป็นเวลาทั้งหมด 6 เดือนด้วยกัน

และผลจากการที่พวกเขาได้ทำการทดลองโดยการใช้ตัวยาแต่ละชนิดที่ต่างก็มีส่วนผสมที่เป็นยาฆ่าแมลงชนิดต่างๆอยู่ด้วย แต่ถึงกระนั้นเหล่าประชากรของพวกแมลงสาบนั้นก็ยังคงอยู่แถมกลับมีเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว

ทางฝ่ายของทีมนักวิจัยได้ออกมาอธิบายว่าแมลงสาบที่เป็นเพศเมียส่วนมากนั้นจะมีระยะเวลาในการเจริญพันธุ์อยู่มากถึง 3 เดือนด้วยกันซึ่งเป็นระยะเวลาที่มากพอ และในช่วงระยะเวลานี้เองที่พวกแมลงสาบจะพากันออกลูกมาได้มากถึง 50 ตัวซึ่งมันเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นเรื่องง่ายมากๆที่จะสามารถเพาะแพร่ยีนที่เป็นอาการดื้อยาฆ่าแมลงแบบนี้ให้ไปสู่เหล่าแมลงสาบในรุ่นใหม่ๆต่อไปเรื่อยๆนั่นเอง

       ซึ่งจากงานวิจัยที่ทางเหล่านักวิจัยได้นำเสนอมานั้นได้บ่งชี้ว่าจากปฏิกิริยาของแมลงสาบที่มีอาการดื้อยาจำพวกยาฆ่าแมลงแบบนี้นั้นจะมีผลต่อมนุษย์อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้คนที่มีการพักอาศัยอยู่ในแถบบริเวณเขตเมืองพลุกพล่านหรือแม้แต่ในแวดล้อมของกลุ่มผู้คนมีรายได้ต่ำเองก็ตาม อย่างไรก็ตามเมื่อทุกคนได้ทราบกันเช่นนี้แล้วสำหรับพวกเราที่เป็นมนุษย์ทุกคนแล้วว่าพวกแมลงที่ได้ชื่อว่าเป็นแมลงสาบนั้นไม่ว่าจะเจออยู่ที่ไหนก็ถือว่าเป็นพาหะที่สามารถจะก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

ตามมาได้โดยเฉพาะกลุ่มของโรควัณโรค กลุ่มอหิวาตกโรค โรคเรื้อนต่างๆ รวมไปถึงโรคบิดเองก็เช่นกันและแน่นอนว่ามันสามารถทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ด้วย ดังนั้นแล้วการที่เรารู้จักที่จะหลีกเลี่ยง และคอยรักษาความสะอาดของสถานที่อยู่อาศัยจึงเป็นความจำเป็นยิ่งนัก ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันในเบื้องต้นเอาไว้ก่อนนั้นเอง

 

สนับสนุนโดย  entaplay link